ที่มาของเรื่องนี้มาจากการที่รัฐบาลได้กำหนดเป็นนโยบายให้มหาวิทยาลัยของรัฐทั้งหมด
20 แห่ง
ปรับเปลี่ยนสถานภาพไปเป็นสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐภายในปี พ.ศ. 2545 โดยวัตถุประสงค์ในการปรับเปลี่ยนตามที่ปรากฏในสมุดปกขาว
ของทบวงมหาวิทยาลัย เรื่อง หลักการและแนวปฏิบัติมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ มี 2
ประเด็นคือ
1. เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติงานของสถาบันอุดมศึกษาให้มีความเป็นอิสระ
คล่องตัว มีประสิทธิภาพเพื่อ ความเป็นเลิศทางวิชาการจึงให้ปรับเปลี่ยนสถานภาพไปเป็นมหาวิทยาลัยที่ไม่เป็นส่วนราชการ
และ
2. เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขของธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย
(Asian Development Bank: ADB) ที่ให้รัฐบาลไทยกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาสภาพคล่อง
และชดเชยการขาดดุลของงบประมาณรายจ่ายในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ พ.ศ. 2540 กรอบนโยบายหนึ่งที่ทบวงมหาวิทยาลัยในขณะนั้นต้องรับผิดชอบดำเนินการ
คือ การพัฒนาให้มหาวิทยาลัยของรัฐทุกแห่งเป็นมหาวิทยาลัยอิสระ
(Autonomous University) หรือมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐภายในปี
พ.ศ. 2545
ปัจจุบันมีหลายมหาวิทยาลัย
โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยใหญ่ ๆ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหิดลได้ออกไปเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับฯ
กันมากขึ้น และการดำเนินการต่าง ๆ เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยในกำกับฯ มีความชัดเจนมากขึ้น
ประกอบกับการออกไปเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับ ฯ
มหาวิทยาลัยสามารถออกระเบียบในการดำเนินการต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นระเบียบการเงิน หรือการบริหารบุคคลต่างๆได้เอง
ซึ่งจะช่วยให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ เกิดความคล่องตัว
และลดความซ้ำซ้อนลงได้ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นในปัจจุบันเนื่องจากการจำกัดอัตรากำลังของภาครัฐ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น